หน้าตาของแบตเตอรี่โบราณอายุกว่าสองพันปี
หลายท่านคงเริ่มมีคำถามในหัวว่า แบตเตอรี่เนี่ยนะ ชาวอาหรับโบราณเมื่อ 2,000 ปีที่แล้วจะเอาแบตเตอรี่ไปทำอะไร??
ใช่ครับ คำถามนี้สร้างความงงงวยให้กับนักโบราณคดีจนถึงทุกวันนี้ แต่มันคือแบตเตอรี่แน่ ๆ เพราะมันใช้งานได้ และมันก็มีอายุ 2,000 ปีจริง ๆ
แบตเตอรี่โบราณนี้ถูกขุดค้นพบโดย Wilhelm Konig นักโบราณคดีชาวเยอรมันเมื่อปี 1938 ชานกรุงแบกแดดในปัจจุบัน ซึ่งเป็นบริเวณแหล่งอารยธรรมเมโสโปเตเมีย
ส่วนประกอบของแบตเตอรี่โบราณที่หลักการทำงานไม่ได้ต่างจากแบตเตอรี่กรดที่ใช้ในปัจจุบันเลย
ไหใบนี้ซึ่งสูงประมาณ 13 เซนติเมตร ด้านบนปิดด้วยยางมะตอยมีแท่งเหล็กยื่นออกมา ซึ่งแท่งเหล็กนี้หุ้มด้วยปลอกทองแดงอีกชั้น
ตัวโลหะนั้นมีสภาพผุกร่อนตามกาลเวลา และด้านในไหยังมีน้ำส้มสายชูบรรจุอยู่ด้านในซึ่งยังคงสภาพดีอยู่
ส่วนประกอบของแบตเตอรี่เมื่อแยกชิ้นส่วนออกมา
มันแทบไม่ต้องคิดเลย Konig สรุปผลการค้นพบว่านี่คือแบตเตอรี่ เขาตีพิมพ์การค้นพบ แต่โชคไม่ดีเพราะหลังจากนั้นไม่นานก็เกิดสงครามโลก การค้นพบนี้จึงถูกผู้คนลืมเลือน
การประเมินอายุของแบตเตอรี่โบราณนี้ยังคงสับสน คาดกันว่าอยู่ในช่วง 200-250 ปีก่อนคริสตกาล ซึ่งเหล่านักรบเปอร์เซียไม่ได้ทำการบันทึกการค้นพบทางวิทยาการใด ๆ เอาไว้เลย
แต่ตัวไหเองเป็นของที่อยู่ในยุคจักรวรรดิเปอร์เซียช่วงปลาย (ค.ศ. 224–ค.ศ. 651)
ภาพสเก็ตซ์ของแบตเตอรี่
ความสับสนยังรวมไปถึงการค้นพบของ Konig ด้วย บางกระแสก็บอกว่าเขาเจอมันในห้องเก็บของของพิพิธภัณฑ์กรุงแบกแดดในตอนที่เขาดำรงตำแหน่ง ผอ. และจำนวนที่ถูกค้นพบนั้นก็ไม่แน่ชัดคาดว่ามีประมาณ 12 ใบขึ้นไป
แบตเตอรี่นี้สามารถใช้งานได้โดยจ่ายไฟได้แรงดันประมาณ 0.8 ถึง 2 โวลท์
แล้วคนอาหรับโบราณเอาแบตเตอรี่มาใช้ทำอะไร??
มีหลายความคิดเห็นถึงความเป็นไปได้ซึ่งยังไม่ได้ข้อสรุปจนทุกวันนี้ มีอะไรบ้าง
1. ใช้ในการระงับปวดด้วยเทคนิคที่คล้ายกับการฝังเข็มของจีน แต่สมมติฐานนี้เป็นไปได้ยากเพราะแรงดันไฟต่ำเกิดไปที่จะทำให้การฝังเข็มมีผล
2. ใช้ในงานชุบโลหะ เพื่อการผลิตเครื่องประดับ ข้อนี้ฟังดูพอมีเค้าลางมากขึ้น
3. เปล่าเลย เอามาใช้ทำอย่างอื่นต่างหากเล่า เพราะการด่วนสรุปว่าเป็นแบตเตอรี่อาจเร็วเกินไป โอเคมีแบตแล้วแล้วสายไฟอยู่ไหนละ?? หรือบางทีสายไฟที่คนโบราณใช้อาจไม่เหมือนกับที่เราใช้ทุกวันนี้ก็เป็นได้
ก็ยังคงเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่สร้างความประหลาดใจและงุนงงให้กับนักโบราณคดีนับตั้งแต่วันที่มันได้ถูกค้นพบ เพราะถ้ามันเป็นแบตเตอรี่จริงมันก็ก้าวล้ำราวกับว่าคนในยุคนี้ย้อนเวลากลับไปในดินแดนอาหรับเมื่อ 2,000 ปีก่อนและทำมันขึ้นมา