Custom Search
เผยโครงการลับของนาซี D-IX ยาที่สามารถเพิ่มพลังจนทำให้ทหารธรรมดากลายเป็นยอดมนุษย์!
หากเอ่ยถึงสุดยอดทหารสุดยอดนักรบหลายคนคงนึกถึง “กัปตันอเมริกา” กันเป็นแน่
ชายที่ได้ชื่อว่าเป็นผลการการทดลองที่เปลี่ยนมนุษย์ธรรมดาให้กลายเป็นสุดยอดมนุษย์ และหากเรื่องราวเรานี่ไม่ได้มีเพียงแต่ในภาพยนตร์ล่ะ?
แต่มันคือเรื่องจริงที่ครั้งหนึ่งนาซีเยอรมันได้คิดค้นยาบางชนิดเพื่อให้ทหารก้าวข้ามขีดจำกัดในการรบมาก่อน มันเป็นยังไง? มาดูกัน
ย้อนกลับไปในปี 1938
ชาวเยอรมันได้รู้จักกับยาชนิดหนึ่งที่ชื่อว่า “Pervitin” ซึ่งเป็นดั่งยาวิเศษที่ช่วยให้ร่างกายตื่นตัว เสริมสร้างความมั่นใจในตัวเอง ไม่เจ็บปวด ไม่หิว ไม่ง่วง ที่ถูกผลิตและขายแก่พลเรือนและถูกใช้กับทหารนาซีเยอรมันอย่างแพร่หลาย
โดยมีส่วนประกอบสำคัญคือ “เมทแอมเฟตามีน”
(Methamphetamine) สารกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง หรือที่รู้จักกันในชื่อ “ยาบ้า”ยา Pervitin
จึงถูกซื้อโดยกองทัพนาซีเยอรมันจำนวนมากเพื่อนำแจกจ่ายให้กับทหารหน่วย Wehrmacht
ในสงครามกับโปแลนด์ ซึ่งผลที่ได้คือทหารเหล่านี้มีความอดทน
และเพิ่มขีดจำกัดของทหารเหล่านี้ไปอีกขั้น จนสามารถนำชัยชนะมาสู่กองทัพนาซีได้หลายต่อหลายครั้ง
บางข้อมูลระบุว่า “อดอล์ฟ ฮิตเลอร์” ก็ใช้ยาตัวนี้เช่นกัน อย่างไรก็ตามในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 แรงกดดันของสงครามจากหลายแห่งที่นาซีเยอรมันต้องต่อสู้ เกิดการเรียกร้องให้คิดค้นยาตัวใหม่ที่ออกฤทธิ์
นานกว่าเดิม และสร้างพละกำลัง
ได้ยาวนานกว่าเดิมขึ้นมาแทนยาแบบเก่า
ยา D-IX ถือกำเนิด!นักวิทยาศาสตร์ประจำกองทัพจึงได้พัฒนายาตัวใหม่ขึ้นมาโดยใช้ชื่อว่า D-IX โดยมีส่วนประกอบของ โคเคน มอร์ฟีนและเมทแอมเฟตามีน
ยาชนิดใหม่ผ่านการทดลองโดยการให้เชลยศึกรายหนึ่งกินเข้าไปจากนั้นก็รอวัดผลลัพธ์ที่จะได้ ผลคือยาเม็ดนี้ช่วยให้คนสามารถเดินเท้าไกลกว่า 90 กิโลเมตรโดยไม่ต้องหยุดพักหรือเหน็ดเหนื่อย แม้จะต้องแบกสัมภาระหนัก 20 กิโลกรัมตลอดการเดินทางถ้าต้องใช้ร่างกายเกินขีดจำกัดขนาดนั้น
เหล่าทหารนาซีคงไม่ต่างอะไรกับพวกซอมบี้ยา D-IX จึงเป็นหนึ่งในอาวุธลับที่กองทัพนาซีหมายจะทำให้ทหารก้าวข้ามขีดจำกัดของมนุษย์และมีชัยเหนือข้าศึกทั้งปวง ทว่ายา D-IX นี้ถูกพัฒนาในช่วงนาซีเยอรมันกำลังจะพ่ายแพ้สงคราม โครงการดังกล่าวจึงถูกปิดตัวไป
หนึ่งในนักประวัติศาสตร์สงครามได้ออกมาแสดงความเห็นว่า…
ยาเสพติดทั้งสองชนิดของนาซีเยอรมันนั้นไม่ได้ช่วยให้ทหารของพวกเขาเก่งในการรบอย่างที่พวกเขาคิด มันกลับทำให้ทหารของเขาติดยาเสพติดและติดแอลกอฮอล์ ซึ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพทหารพวกเขาเองอย่างมากจนเป็นเหตุให้แพ้สงครามในที่สุด