คานาสือ…ดินแดนบริสุทธิ์ที่เหลืออยู่บนโลกนี้
คานาสือ หรือ คานาส เป็นดินแดนท่ามกลางการโอบล้อมของเทือกเขาอัลไต ที่มีขนาดไพศาลกว่า 2,000 ตารางกิโลเมตร ตั้งอยู่บริเวณตอนเหนือสุดของมณฑลซินเจียง มีอากาศหนาวเย็นและหิมะปกคลุมเกือบตลอดปี สลับกับทุ่งดอกไม้ในฤดูกาลที่หิมะละลาย
คำว่า ‘คานาส’ เป็นภาษามองโกล หมายถึง ทะเลสาบกลางหุบเขา ส่วนคำว่า ‘คานาสือ’ เป็นภาษาจีนในความหมายเดียวกันนั่นเอง บริเวณเทือกเขาอัลไตมีทัศนียภาพที่งดงามแปลกตาและบริสุทธิ์ ทั้งป่าไม้ที่สมบูรณ์ และพืชพรรณต่างๆ เทือกเขาที่สูงชัน ทุ่งหญ้าที่เขียวขจี และมีธารน้ำแข็ง (Glacier) ชื่งเป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำต่างๆ มากถึง 374 สายด้วยกัน ธารน้ำแข็งที่ยาวที่สุดคือ ธารน้ำแข็งคานาส ซึ่งมีความยาวถึง 10 กม. ซึ่งละลายกลายเป็นที่มาของทะเลสาบคานาส ที่มีสีฟ้าใสยาวคดเคี้ยวไปตามหุบเขา
คำว่า ‘คานาส’ เป็นภาษามองโกล หมายถึง ทะเลสาบกลางหุบเขา ส่วนคำว่า ‘คานาสือ’ เป็นภาษาจีนในความหมายเดียวกันนั่นเอง บริเวณเทือกเขาอัลไตมีทัศนียภาพที่งดงามแปลกตาและบริสุทธิ์ ทั้งป่าไม้ที่สมบูรณ์ และพืชพรรณต่างๆ เทือกเขาที่สูงชัน ทุ่งหญ้าที่เขียวขจี และมีธารน้ำแข็ง (Glacier) ชื่งเป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำต่างๆ มากถึง 374 สายด้วยกัน ธารน้ำแข็งที่ยาวที่สุดคือ ธารน้ำแข็งคานาส ซึ่งมีความยาวถึง 10 กม. ซึ่งละลายกลายเป็นที่มาของทะเลสาบคานาส ที่มีสีฟ้าใสยาวคดเคี้ยวไปตามหุบเขา
ความสวยงามตระการตาของคานาสือที่โดดเด่นที่สุดคือ ทะเลสาบที่อยู่เหนือระดับน้ำทะเลถึง 1,370 เมตร ซึ่งถูกโอบล้อมด้วยธรรมชาติที่สวยงามน่าตื่นตะลึง ทะเลสาบแห่งนี้มีความยาวรวมทั้งสิ้น 24 กิโลเมตร และยังถือว่าเป็นทะเลสาบน้ำจืดที่มีความลึกที่สุดในโลก
คือ มีความลึกราว 188 เมตร ชาวถูหว่าซึ่งเป็นคนพื้นเมืองได้ให้ฉายาทะเลสาบคานาสว่า เป็นทะเลสาบเปลี่ยนสี เพราะเมื่อสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง สีสันของน้ำในทะเลสาบแห่งนี้ก็จะแปรเปลี่ยนตามไปด้วย เช่นในวันที่ท้องฟ้าสดใส น้ำในทะเลสาบแห่งนี้จะกลายเป็นสีเขียวครามเข้ม ในวันที่ครึ้มฟ้าครึ้มฝน น้ำในทะเลสาบก็จะเปลี่ยนเป็นสีเขียวเทา ส่วนในช่วงฤดูร้อน น้ำในทะเลสาบก็จะสะท้อนออกมาเป็นสีเขียวครามขุ่น….น่าอัศจรรย์ใช่ไหมล่ะ?
คือ มีความลึกราว 188 เมตร ชาวถูหว่าซึ่งเป็นคนพื้นเมืองได้ให้ฉายาทะเลสาบคานาสว่า เป็นทะเลสาบเปลี่ยนสี เพราะเมื่อสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง สีสันของน้ำในทะเลสาบแห่งนี้ก็จะแปรเปลี่ยนตามไปด้วย เช่นในวันที่ท้องฟ้าสดใส น้ำในทะเลสาบแห่งนี้จะกลายเป็นสีเขียวครามเข้ม ในวันที่ครึ้มฟ้าครึ้มฝน น้ำในทะเลสาบก็จะเปลี่ยนเป็นสีเขียวเทา ส่วนในช่วงฤดูร้อน น้ำในทะเลสาบก็จะสะท้อนออกมาเป็นสีเขียวครามขุ่น….น่าอัศจรรย์ใช่ไหมล่ะ?
ปัจจุบัน คานาสือได้ขึ้นทะเบียนให้เป็น ‘เขตอนุรักษ์ธรรมชาติคานาส’ ไปแล้ว นั่นเพราะที่นี่เต็มไปด้วยพืชพรรณนานาสปีชี่ และเต็มไปด้วยพันธุ์สัตว์ป่ามากมาย อาทิ นกอินทรี หมีสีน้ำตาล แมวป่า เสือดาวหิมะ ฯลฯ แต่อะไรก็ไม่เท่ากับเสียงร่ำลือกันว่า ในทะเลสาบคานาสแห่งนี้มีสัตว์ประหลาดอาศัยอยู่ด้วย จนกลายเป็นตำนานเรื่องเล่าขานสืบต่อมาช้านาน กระทั่งคานาสได้สมญานามอีก ชื่อหนึ่งว่า ‘ทะเลสาบแห่งเทพนิยาย’
วัน ที่ 27 กันยายน พ.ศ.2546 คานาสเผชิญกับแผ่นดินไหวครั้งรุนแรง ชาวบ้านได้ยินเสียงดังกังวานคล้ายกับเป็นเสียงร้องของสัตว์ก้องไปทั่วบริเวณ อีกด้วย คำร่ำลือทั้งหลายแหล่นี้นี่เองที่ทำให้ชาวบ้านไม่กล้าที่จะนำ สัตว์เลี้ยงออกไปหากินหญ้าบริเวณริมทะเลสาบคานาสอีกเลยจนกระทั่งทุกวันนี้ แต่หลังจากที่มีนักวิทยาศาสตร์หลายต่อหลายกลุ่มเข้าไปสำรวจทะเลสาบก็ปรากฎ ข้อถกเถียงที่ว่า แท้จริงแล้วสัตว์ประหลาดแห่งทะเลสาบคานาสที่ร่ำลือกันในตำนานนั้นน่าจะเป็น ปลาแดงยักษ์ ที่รู้จักกันในนาม Giant Taimen มากกว่า โดยปลาชนิดนี้มีชื่อเรียกกันว่า ‘ปลาปีศาจ’ เนื่องจากเป็นปลาน้ำจืดที่มีขนาดตัวใหญ่มาก เมื่อโตเต็มที่อาจมีความยาวหัวจรดหางราว 10-15 เมตร และอาจมีน้ำหนักมากถึง 4 ตัน แต่เจ้าปลาแดงยักษ์ที่หนักเป็นตันๆ ตามข้อสันนิษฐานนี้
จนถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่เคยมีใครจับได้เสียที เพียงแต่มีคนยืนยันว่า เห็นพวกมันแหวกว่ายกันอยู่เป็นกลุ่มในทะเลสาบคานาสเท่านั้น!?!