เจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกในยุคกลาง
1.โคลอสเซียม สนามกีฬาแห่งกรุงโรม ประเทศอิตาลี เป็นสนามกีฬากลางแจ้งขนาดใหญ่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโรม เริ่มสร้างขึ้นในสมัยจักรพรรดิเวสเปเซียนแห่งจักรวรรดิโรมัน และสร้างเสร็จในสมัยของจักรพรรดิไททัส ในคริสต์ศตวรรษที่ 1 หรือประมาณปี ค.ศ. 80 อัฒจันทร์เป็นรูปวงกลมก่อด้วยอิฐและหินทรายวัดโดยรอบได้ประมาณ 527 เมตร สูง 57 เมตร สามารถจุผู้ชมได้ประมาณ 50,000 คน
2.สุสานแห่งอเล็กซานเดรีย เป็นสถานที่ฝังศพใต้ดินของกษัตริย์อียิปต์โบราณอีกแบบหนึ่งนอกเหนือไปจากปิรามิด อยู่ที่เมืองอเล็กซานเดรีย ประเทศอียิปต์อุโมงค์แห่งนี้มีชื่อเรียกว่า คาตาโกมบ์ (GATACOMBS) โดยขุดลึกเข้าไปในภูเขาหินทรายเป็นขั้นๆ บางตอนมีความลึกถึง 70-80 ฟุต มีทางเดินกว้าง 3-4 ฟุต ทางเดินจะวกไปเวียนมาเป็นระยะทางนับร้อยไมล์ ผนังอุโมงค์ถูกเจาะเป็นช่องๆ ลึกเข้าไปเพื่อใช้เป็นที่บรรจุศพ มีแท่นบูชาและตะเกียงดวงเล็กๆ แขวนไว้ บางส่วนของอุโมงค์แห่งนี้ได้ตบแต่งเอาไว้อย่างวิจิตรพิสดารสภาพในปัจจุบัน ยังคงความสมบูรณ์เอาไว้พอที่จะให้ผู้สนใจเข้าไปเที่ยวชมได้์
3.กำแพงเมืองจีน เป็นกำแพงที่มีป้อมคั่นเป็นช่วง ๆ ของจีนสมัยโบราณ กำแพงส่วนใหญ่ที่ปรากฏในปัจจุบันสร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์ฉิน ทั้งนี้เพื่อป้องกันการรุกรานจากพวกฮันส์ หรือชนเผ่า ซยงหนู (Xiongnu) คำว่า ซยงหนู บางทีก็สะกดว่า ซุงหนู หรือ ซวงหนู ที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับอารยธรรมจีนในยุคต้นๆ ตั้งแต่สมัยราชวงศ์โจว(ราว 400 ปีก่อคริสตกาล)
เนื่องจากจะเข้ามารุกรานจีนตามแนวชายแดนทางเหนือ ในสมัยราชวงค์ฉิน ได้สั่งให้สร้างกำแพงหมื่นลี้ตามชายแดน เพื่อป้องกันพวก ซยงหนู เข้ามารุกราน และพวกเติร์กจาก ทางเหนือ หลังจากนั้นยังมีการสร้างกำแพงต่ออีกหลายครั้งด้วยกัน แต่ภายหลังก็มีเผ่าเร่ร่อนจากมองโกเลียและแมนจูเรียสามารถบุกฝ่ากำแพงเมือง จีนได้สำเร็จ
4.สโตนเฮนจ์ เป็นกลุ่มแท่งหินขนาดใหญ่ ตั้งอยู่กลางทุ่งราบกว้างใหญ่บนที่ราบซอลส์บรี (Salisbury Plain) ในบริเวณตอนใต้ของเกาะอังกฤษ ประกอบไปด้วยแท่งหินขนาดยักษ์ 112 ก้อน ตั้งเรียงกันเป็นวงกลมซ้อนกัน 3 วง แท่งหินบางอันตั้งขึ้น บางอันวางนอนลง และบางอันก็ถูกวางซ้อนอยู่ข้างบนนักโบราณคดีเชื่อว่ากลุ่มกองหินนี้ถูกสร้างขึ้นจากที่ไหนสักแห่งเมื่อประมาณ 3000–2000 ปีก่อนคริสตกาล กล่าวคือ การหาอายุจากคาร์บอนกัมมันตรังสีเมื่อ พ.ศ. 2551 เผยให้เห็นว่าหินก้อนแรกถูกวางตั้งเมื่อประมาณ 2400–2200 ปีก่อนคริสตกาลในขณะที่ทฤษฎีอื่น ๆ ระบุว่ากลุ่มหินที่ถูกวางตั้งมาตั้งแต่ก่อนหน้านั้นถึง 3000 ปีก่อนคริสตกาล
5.เจดีย์กระเบื้องเคลือบนานกิง ตั้งอยู่เมืองนานกิง ตอนเหนือของจีน สร้างราวคริสต์ศตวรรษที่ 15 ในสมัยราชวงศ์หมิง เจดีย์มีลักษณะทรงรูปแปดเหลี่ยม หลังคามุงด้วยกระเบื้องเคลือบสีเขียว ชายคาแขวนกระดิ่ง 80 ลูกโดยรอบ องค์เจดีย์ก่ออิฐประดับกระเบื้องเคลือบยอดแหลมเป็นทรงกลมต่อขึ้นไปเคลือบทอง เดิมองค์เจดีย์มีเพียง 3 ชั้น ในประมาณพ.ศ. 1973 จักรพรรดิยุ่งโล้โปรด สร้างอีก 6 ชั้น รวม 9 ชั้น มีโซ่โยงจากเหลี่ยมของเจดีย์ 8 เส้น มีกระดิ่งตามแนว 72 ลูก ปัจจุบันเจดีย์ทรุดโทรมมากเนื่องจากถูกเผาสมัยเกิดกบฏไท่ผิงเมื่อ พ.ศ. 2392
6.หอเอนเมืองปิซา ตั้งอยู่ที่เมืองปิซา ในจัตุรัสเปียซซา เดล ดูโอโม (Piazza Del Duomo) หอระฆังของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก เป็นหอทรงกระบอก 8 ชั้น สร้างด้วยหินอ่อนสีขาว สูง 183.3 ฟุต (55.86 เมตร) น้ำหนักรวม 14,500 ตันโดยประมาณ มีบันได 293 ขั้น เอียง 3.97 องศา ยอดของหอห่างจากแนวตั้งฉาก 3.9 เมตร
7.ฮาเยียโซเฟีย หรือ ฮาเจียโซเฟีย หรือชื่อในปัจจุบัน พิพิธภัณฑ์อะยาโซเฟีย (Ayasofya Museum) เดิมเคยเป็นโบสถ์ของคริสต์ศาสนานิกายออร์โธดอกส์ ต่อมาถูกเปลี่ยนเป็นสุเหร่า ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ ตั้งอยู่ที่นครอิสตันบูล ประเทศตุรกี ถือเป็นสิ่งก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งและมักถูกจัดให้อยู่ในรายการสิ่งมหัศจรรย์ของโลกในยุคกลางจุดเด่นอยู่ที่ยอดโดมขนาดมหึมากลางวิหาร และนับเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดของสถาปัตยกรรมไบแซนไทน์ ฮาเจียโซเฟียเคยเป็นโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกมานานเกือบพันปี จนกระทั่งโบสถ์เซบียาสร้างเสร็จในปี 1520