15 ตุลาคม พ.ศ.2460 ..มาตา ฮารี นางระบำชาวเนเธอร์แลนด์ ถูกประหารชีวิต |
ฮารีมีนามจริงว่า มาร์กาเรเท เกอร์ทรูด เซลเล (Margaretha Geertruida Zelle)
เกิดเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2419 ที่เมืองลีวาร์เดน (Leeuwarden) จังหวัดฟรีส์แลนด์ (Friesland)
ตอนอายุ 15 ปีมารดาเสียชีวิต บิดากลายเป็นบุคคลล้มละลาย
เธอแต่งงานกับทหารเรือตอนอายุ 18 ปี ภายหลังต้องย้ายตามสามีไปประจำการที่เกาะชวา ประเทศอินโดนีเซีย และมีลูกด้วยกันสองคน ที่นี่เธอได้ศึกษาการร่ายรำศักดิ์สิทธิ์ของฮินดู จากวัดในเกาะชวา แล้วพัฒนาลีลาเป็นของตนเอง โดยร่ายรำม้วนลำตัวแสดงลักษณะความเป็นหญิง ในลักษณะคล้ายคลึงกับระบำหน้าท้อง เธออธิบายการเต้นรำของตัวเองว่าเป็น “บทกวีอันศักดิ์สิทธิ์ โดยการเคลื่อนไหวแต่ละลีลาเป็นเสมือนคำที่ขีดเส้นใต้ไว้ด้วยดนตรี”
ปี 2446 เธอกับครอบครัวเดินทางกลับเนเธอร์แลนด์ เธอหย่ากับสามีแล้วย้ายไปยังกรุงปารีส ฝรั่งเศส ทำงานในคณะละครสัตว์ และเป็นนางแบบให้จิตรกรเขียนภาพ
ปี 2448 เธอเริ่มมีชื่อเสียงจากลีลาการเต้นที่พัฒนาขึ้นมาเอง ซึ่งเรียกว่า "ระบำแห่งโอเรียนต์" (Oriental-style Dancer) จากนั้นก็เปลี่ยนชื่อเป็น "มาตา ฮารี" ซึ่งเป็นภาษาอินโดนีเซียแปลว่า "ดวงตาแห่งวัน" หรือ “ดวงตาวัน” คืนหนึ่งเธอได้เปิดแสดงที่พิพิธภัณฑ์กุยเมต์ (Guimet Museum) ส่งผลให้เธอโด่งดังในชั่วข้ามคืน ด้วยลีลาการเต้นที่แสนยั่วยวน มีเสน่ห์ ลึกลับ น่าหลงไหล (exotic)
คลิปประกอบบทความ
เธอป็นนางแบบที่ถูกถ่ายภาพลงหนังสือจนโด่งดังไปทั่วปารีส เธอประสบความสำเร็จมากที่สุดในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 โดยเป็นทั้ง “นาฏศิลปิน”, “อิสรชน” หรือ “โบฮีเมียน” (Bohemians) เดินทางไปแสดงหลายประเทศในยุโรป แต่ขณะเดียวกันเธอก็มีความสัมพันธ์กับผู้ชายไม่เลือกหน้า โดยเฉพาะคนชั้นสูงทั้งทหาร ข้าราชการ และนักการเมือง ทั้งชาวฝรั่งเศส รัสเซียและเยอรมันในที่สุดเธอก็ถูกจับที่ปารีส ในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2460 ถูกสืบสวนพบว่า เธอเป็นสายลับหรือจารชนให้กับทั้งฝ่ายมหาอำนาจกลางและฝ่ายพันธมิตร โดยนอนกับนายทหารระดับสูงเพื่อล้วงความลับให้ฝ่ายตรงข้าม ในที่สุดก็ถูกตัดสินประหารชีวิตโดยการยิงเป้า ขณะอายุ 41 ปี
คลิปประกอบบทความ
บทสรุป
มาตา ฮารี (Mata Hari) หรือ มาร์กาเรท เกอร์ทรูด เซลเล (Margarethe Geertruida Zalle) นางแบบและนักเต้นที่โด่งดังไปทั่วทั้งยุโรปในช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ด้วยการศึกษาท่าทางการร่ายรำศักดิ์สิทธิ์ของฮินดู และดัดแปลงจนกลายมาเป็นแบบฉบับของตัวเอง ทำให้การแสดงของเธอถูกพูดถึงในแง่ของความมีเสน่ห์เย้ายวนและลึกลับและน่าหลงใหล และจากความโด่งดังของเธอนั้นเอง ทำให้เธอสนิทสนมและมีความสัมพันธ์กับผู้ชายที่เป็นชนชั้นสูงในสังคมมากมายทั่วยุโรป ไม่ว่าจะเป็นนายทหาร ข้าราชการ นักการเมือง จนในต้นปี 1917 เธอถูกจับกุม และตัดสินว่ามีความผิดในข้อหาเป็นจารชนหรือสายลับที่ล้วงความลับทางการทหารต่างๆให้กับทั้ง 2 ฝ่ายในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง คือฝ่ายมหาอำนาจกลางและฝ่ายสัมพันธมิตร และถูกตัดสินประหารชีวิตในที่สุด